ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นำมาซึ่งความสนุกและความชุ่มฉ่ำท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนแรงของประเทศไทย แต่ความเฉลิมฉลองดังกล่าวยังได้เพิ่มภาระให้กับช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องรับมือกับปัญหา "โทรศัพท์เปียกน้ำ" จากการใช้ซองพลาสติกกันน้ำที่ไม่สามารถป้องกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ นายปราโมทย์ เจ้าของร้านโอ๊ตโมบายในราชบุรี เปิดเผยว่า หลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ปีนี้ มีลูกค้านำโทรศัพท์เปียกมาซ่อมไม่ต่ำกว่า 10 เครื่องต่อวัน โดยปัญหาหลักมาจากการซึมของน้ำเข้าทางรูของลำโพง…
กรมอนามัยเตือนความร้อนสูงสุดในฤดูร้อนไทย อาจถึง 50 องศาเซลเซียส
กรมอนามัยแห่งประเทศไทยได้ออกมาเตือนประชาชนให้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพในช่วงอากาศร้อนจัดที่อุณหภูมิสูงพุ่งอาจถึง 50 องศาเซลเซียส ระบุอาการเสี่ยงที่ควรจับตามอง ได้แก่ ปวดศีรษะ, วิงเวียน, สับสน, ผิวอักเสบ, และเบื่ออาหาร เน้นย้ำภัยจากอาหารเสียและการขาดน้ำที่เกิดได้ง่ายในสภาวะนี้
เพื่อการป้องกันและการดูแลที่มีประสิทธิภาพ กรมอนามัยแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ, หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืน, ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี, หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และติดตามอาการผิดปกติเพื่อแจ้งเตือนให้ทันท่วงที
อีกทั้งยังมีคำแนะนำพิเศษสำหรับกลุ่มเสี่ยงเช่นทารก, เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์, ผู้มีโรคประจำตัว, ผู้ที่มีภาวะอ้วน, และผู้ที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง แนะนำให้ระมัดระวังการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงอากาศร้อนสุดขีดและดื่มน้ำให้เพียงพอเสมอ
ด้วยความรุนแรงของสภาพอากาศในปีนี้ กรมอนามัยจึงเน้นย้ำความสำคัญของการป้องกันและรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่อาจตามมาจากอากาศร้อนอย่างจริงจัง
การปรับตัวต่ออากาศร้อนที่สำคัญยังรวมถึงการเลือกอาหารที่สดใหม่และหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ทิ้งไว้นานหรือค้างคืน เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ สถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติเช่นนี้ยังต้องระวังอย่างยิ่งในเรื่องของอาหารที่เก็บรักษาไม่ถูกวิธีที่อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำและการสูญเสียแร่ธาตุอย่างรุนแรงได้
สำหรับผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ควรปรับเปลี่ยนตารางเวลาให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีอากาศร้อนที่สุดในวัน คือระหว่างเวลา 11.00-15.00 น. เพิ่มการดื่มน้ำและอุปกรณ์ป้องกันแสงแดดเช่นหมวกกันน็อค, แว่นกันแดด และครีมกันแดดในช่วงที่ต้องทำงานหรืออยู่กลางแจ้ง
นอกจากนี้, ผู้ที่มีภาวะสุขภาพพิเศษ เช่น ผู้ที่รับประทานยาลดความดัน, ยาแก้คัดจมูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณยาหรือแนวทางในการรับประทานยาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาในสภาวะอากาศร้อนจัด
การดูแลตนเองอย่างใกล้ชิดและการสังเกตอาการตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเผชิญกับอากาศร้อน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หากพบว่ามีอาการผิดปกติเช่น มีผื่นคัน, ร่างกายอ่อนเพลียผิดปกติ, ปวดศีรษะรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบและรักษาทันที
ด้วยความรุนแรงของสภาพอากาศในปีนี้ การตระหนักรู้ถึงภัยจากความร้อนและการเตรียมพร้อมที่ดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยและป้องกันภาวะที่อาจอันตรายได้อย่างมาก กรมอนามัยจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ.
#ข่าวทั่วไป