ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นำมาซึ่งความสนุกและความชุ่มฉ่ำท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนแรงของประเทศไทย แต่ความเฉลิมฉลองดังกล่าวยังได้เพิ่มภาระให้กับช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องรับมือกับปัญหา "โทรศัพท์เปียกน้ำ" จากการใช้ซองพลาสติกกันน้ำที่ไม่สามารถป้องกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ นายปราโมทย์ เจ้าของร้านโอ๊ตโมบายในราชบุรี เปิดเผยว่า หลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ปีนี้ มีลูกค้านำโทรศัพท์เปียกมาซ่อมไม่ต่ำกว่า 10 เครื่องต่อวัน โดยปัญหาหลักมาจากการซึมของน้ำเข้าทางรูของลำโพง…
ส.อ.ท. หวังเศรษฐกิจฟื้นตัวจากมาตรการแจกเงินหนึ่งหมื่น หลังยอดขายรถยนต์ลดลง 24.98% ในเดือน ส.ค. 67
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนสิงหาคม 2567 ลดลง 24.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนและหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ที่สูงขึ้น
ในเดือนสิงหาคม 2567 การผลิตรถยนต์ในประเทศไทยอยู่ที่ 119,680 คัน ลดลง 20.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงถึง 40.49% ขณะที่การผลิตเพื่อการส่งออกลดลง 6.62% และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2567 การผลิตรถยนต์ลดลง 4.12% เนื่องจากการผลิตรถกระบะที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ยอดการผลิตตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 1,005,749 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 17.69%
ในด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) พบว่า ยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 352 คัน เพิ่มขึ้นถึง 17,500% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีการผลิตเพียง 2 คันเท่านั้น ส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนนี้อยู่ที่ 7,302 คัน เพิ่มขึ้น 20.44%
นายสุรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ เช่น มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท การแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ รวมถึงการใช้งบประมาณประจำปี 2568 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ทั้งนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ลดลง 0.50% และคาดว่าจะมีการลดเพิ่มเติมอีกในปีนี้
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศในเดือนสิงหาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 45,190 คัน ลดลง 2.60% จากเดือนกรกฎาคม 2567 และลดลง 24.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ โดยหนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้พุ่งสูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% จากไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้ว.
#ข่าวทั่วไป